5 แนวทางบริหารร้านปิ้งย่าง ที่จะทำให้คุณนำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ

       การทำธุรกิจอะไรก็ตาม การที่เจ้าของธุรกิจสามารถพัฒนาและเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา รวมถึงการรับฟังความรู้สึก ความคิดเห็น และความต้องการของลูกค้า มักจะนำพาให้ธุรกิจนั้นไปได้ไกลและนำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ ธุรกิจปิ้งย่างก็เช่นเดียวกัน การทำธุรกิจนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะมีทั้งการลงทุนสูง การแข่งขันสูง และยังต้องหาข้อแตกต่างของตนเองกับคู่แข่งเจ้าอื่น ๆ เพื่อความเหนือชั้นจนลูกค้าเลือกที่จะมาใช้บริการในร้านของคุณ รวมถึงในเรื่องของการรักษามาตรฐานเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง มาดูกันว่า แนวทางในการบริหารร้านปิ้งย่างแบบไหนที่สามารถก้าวนำคู่แข่งอยู่เสมอ แค่มีกระทะปิ้งย่างเกาหลีอย่างเดียว คงไม่พอให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้

5 แนวทางที่จะช่วยคุณบริหารร้านปิ้งย่าง ให้อยู่เหนือคู่แข่ง

1. ตามทุกกระแสที่กำลังมาแรง

การตามกระแสที่กำลังมาแรง เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องตามให้ทัน เพราะกระแสเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด และเป็นสิ่งที่จะเรียกลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้จำนวนมาก ซึ่งแนะนำว่า การตามกระแสใหม่ไม่ควรทิ้งกระแสเดิมที่เคยมีมาก่อน เช่น เมื่อก่อนได้ใช้กระทะปิ้งย่างเตาถ่าน แต่พอมีกระแสใหม่เข้ามา มีความต้องการกระทะปิ้งย่างเกาหลีไฟฟ้ามากกว่า ทางร้านควรเพิ่มรูปแบบนี้เข้ามา โดยที่ยังคงมีการให้บริการแบบเตาถ่านอยู่เหมือนเดิม เพราะต้องไม่ลืมว่าลูกค้าเก่าที่ชอบการใช้เตาถ่านก็ยังคงมีอยู่

2. รู้จักพัฒนาร้านด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่เสมอ

การพัฒนาคุณภาพของร้านด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่เสมอ จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจของร้านได้มากขึ้น จากยุคก่อนที่มีปัญหาเรื่องของควันจากการทานปิ้งย่างที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และความรู้สึกที่ไม่ดีเมื่อมีกลิ่นควันติดตามตัว จึงได้มีการผลิตเครื่องดูดควันร้านปิ้งย่างขึ้นมาให้บริการสำหรับร้านปิ้งย่างโดยเฉพาะ หรือการใช้ระบบสั่งอาหารอัตโนมัติผ่าน QR CODE แทนการเขียนบนกระดาษและต้องคอยมองหาพนักงานเพื่อส่งออเดอร์ เป็นต้น เมื่อทางร้านได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาใช้ จึงเพิ่มความรู้สึกดีต่อผู้บริโภคมากขึ้น เพราะจะเกิดความรู้สึกว่า ร้านได้ให้ความสำคัญและความใส่ใจต่อผู้บริโภค ไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำ ๆ

3. การจัดโปรโมชั่นพิเศษ

การจัดโปรโมชั่น ไม่แนะนำให้ทำโปรลดราคาบ่อย ๆ เพราะถ้าหากว่ามีโปรนี้เป็นประจำ ลูกค้าจะรอแค่เพียงช่วงที่มีการลดราคาเท่านั้น หากเป็นช่วงราคาปกติก็จะไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ การจัดโปรโมชั่นที่ดีขอแนะนำให้จัด รูปแบบที่หลากหลาย เช่น โปรโมชั่นในช่วงที่มีวัตถุดิบพิเศษ โปรโมชั่นที่มาเป็นแก๊งแล้วได้ส่วนลด โปรโมชั่นสะสมแต้ม เป็นต้น

4. ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ทานได้คุ้มค่ากว่าราคาที่จ่าย

หากร้านคุณให้บริการแบบบุฟเฟต์ วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ตนเองนั้นสามารถชนะร้านปิ้งย่างได้ เช่น การมีให้เลือกระหว่างกระทะปิ้งย่างเกาหลี กับกระทะปิ้งย่างเตาถ่าน, การรวมเครื่องดื่มทุกชนิดแบบรีฟิลในทุกราคา, การมอบวัตถุดิบพรีเมียมฟรีเฉพาะวันพุธที่ลูกค้ามักจะน้อย, ทานจบก่อนเวลาลดเพิ่ม ทานเหลือปรับแต่ห่อกลับบ้านได้เฉพาะน้ำหนักที่ร้านกำหนด เป็นต้น เพราะอย่าลืมว่าพื้นฐานการทานบุฟเฟต์คืออยากเอาชนะราคาที่จ่ายนั่นเอง

5. การซื้อใจลูกค้าด้วยความสัตย์จริง

ข้อนี้หมายความว่า ทุกอย่างที่ทางร้านให้บริการต้องแสดงถึงความจริงใจ ซื่อตรง ไม่เอาเปรียบลูกค้า เช่น การใช้วัตถุดิบดีจริง ไม่แอบอ้างโดยผสมของที่มีราคาถูก แล้วบอกว่าเป็นของพรีเมียม, วัตถุดิบที่มีต้องเพียงพอต่อความต้องการ ไม่ควรปล่อยให้หมด หรือประวิงเวลาในการเติมใหม่, เลือกใช้กระทะปิ้งย่างเกาหลีและอุปกรณ์อื่น ๆ เกรดพรีเมียม เป็นต้น หากลูกค้ารู้สึกว่า ไม่ได้ให้ความรู้สึกสมกับราคาที่จ่าย ก็จะเสียลูกค้าไปได้อย่างง่าย ๆ เผลอ ๆ อาจจะถูกรีวิวเชิงลบ จนทำให้ลูกค้าคนอื่นไม่กล้ามาทานอีกเลย

ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นแนวทางที่จะทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถบริหารร้านปิ้งย่างได้อย่างมีคุณภาพ และซื้อใจลูกค้าได้ไม่ยาก และสุดท้ายอย่าลืม!!! เทรนนิ่งพนักงานทุกคนให้มอบรอยยิ้มแก่ลูกค้า ก่อนที่จะมอบกระทะปิ้งย่างเกาหลีให้กับพวกเขาด้วยนะ