สิ่งที่ห้ามลืมเมื่อเปิดร้านปิ้งย่างชาบู ถ้าไม่อยากให้ธุรกิจร่วง

การเปิดร้านปิ้งย่างชาบูมีรายละเอียดมากมายที่ต้องพิจารณาอย่างตั้งใจ บอกเลยว่าตั้งแต่จุดที่เล็กที่สุดอย่างจาน ชาม ช้อน ส้อม ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเตาปิ้งย่างและการวางระบบเครื่องดูดควันร้านปิ้งย่าง ทุกอย่างก็ต้องวางแผนมาอย่างดี ยิ่งทำพลาดเยอะก็ยิ่งคะแนนตกไว เพราะคู่แข่งก็รายล้อมอยู่มากมาย

5 จุดที่ต้องจี้เมื่อมีร้านปิ้งย่างชาบูเป็นของตัวเอง

1. คัดเลือกวัตถุดิบและทำให้พร้อมทานมากที่สุด แน่นอนว่าลูกค้าย่อมต้องการวัตถุดิบที่สดใหม่ หลากหลาย และรสชาติดี แต่สิ่งที่จะทำให้คะแนนบวกเพิ่มขึ้นไปอีกคือ การจัดสรรปริมาณของวัตถุดิบและการเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมทาน เช่น กุ้งแกะเปลือกก่อนไหม เนื้อละลายน้ำแข็งหมดหรือยัง พวกผักสดหั่นมาพอดีคำหรือเปล่า ฯลฯ

2. พัฒนาสูตรและรสชาติให้คงที่ เครื่องหมักเนื้อ น้ำจิ้ม รสชาติของอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในร้าน หากได้รับคำชมอยู่แล้ว ต้องรักษามาตรฐานนี้ให้คงที่ พยายามอย่าทำเป็นร้านประเภทอร่อยไม่ซ้ำจำสูตรไม่ได้ เพราะนั่นอาจทำให้เราสูญเสียฐานลูกค้าไปได้ง่าย ๆ

3. ทำเลที่ตั้งและที่จอดรถ สิ่งที่ทำให้คน ๆ นึงตัดสินใจว่าจะทานอาหารร้านนี้หรือไม่ หลายครั้งเลยเขาดูก่อนว่า จอดรถได้ไหม เราต้องเข้าใจธรรมชาติของคนที่มาทานปิ้งย่างชาบูว่า ส่วนใหญ่มักจะทานเป็นมื้อสำคัญ บางครั้งพากันมาหลาย ๆ คน หรือต่างคนต่างมา ก็ยิ่งใช้รถยนต์หลายคันมากขึ้น

4. หาจุดขายอย่างน้อยหนึ่งอย่าง เอาแบบที่เจ้าอื่นจะไม่มี ถ้าร้านปิ้งย่างของเราแค่ให้คนเอาเนื้อวางลงบนเตาย่างหรือจุ่มเนื้อลงในหม้อชาบู เตือนตัวเองไว้เสมอว่าร้านไหน ๆ ก็มี ดังนั้นควรหาจุดขายอื่น ๆ สำรองไว้ เช่น เปิดเคาน์เตอร์ขนมหวานที่ให้ลูกค้าทำเอง จัดเมนูพิเศษประจำเดือนที่หาทานที่อื่นไม่ได้ หรือจะคุมธีมเป็นปิ้งย่างเพื่อสุขภาพก็น่าสนใจ

5. อุปกรณ์พร้อม คำว่าอุปกรณ์พร้อมในที่นี้หมายความว่า เราต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่างที่จะสามารถซัพพอร์ตสิ่งที่ไม่พึงประสงค์หรือความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นเมื่อลูกค้ารับประทานอาหาร เช่น ถ้าเปิดร้านปิ้งย่างชาบู เรารู้อยู่แล้วว่าลูกค้าอาจจะโดนรมควัน หรือเกิดเรื่องน้ำมันกระเด็น ดังนั้นเครื่องดูดควันร้านปิ้งย่าง หรือกระดาษไขปูแผ่นย่างกันน้ำมันกระเด็นก็เป็นสิ่งที่ควรมีให้บริการ

เคล็ดลับความสำเร็จอีกขั้นจากมุมมองคนทานถึงคนขาย

นอกจากการทำตามมาตรฐานร้านปิ้งย่างทั่วไปให้ครบ การที่กิจการจะอยู่รอดและเติบโตได้ ส่วนใหญ่อยู่ที่การที่ร้านไม่เคยหยุดนิ่ง มักปรับปรุงเมนูหรือการบริการตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น หรือให้ความสำคัญกับ Feedback ที่ลูกค้าให้ไว้จากช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวในอินเทอร์เน็ต หรือคำติชมที่ทิ้งไว้ที่ร้านกับพนักงาน ซึ่งถ้าเป็นร้านปิ้งย่างชาบู คอมเม้นต์ส่วนใหญ่เรื่องแรกก็จะเป็นเรื่องวัตถุดิบ ระวังเรื่องความไม่สดสะอาด ตัวเลือกน้อย และทานลำบาก

ต่อมาก็เป็นเรื่องเตา ร้านที่โดนคอมเพลนส่วนใหญ่มักจะเป็นร้านที่ผังโต๊ะแออัด แถมเตาปิ้ง-ย่าง ดูดควันไม่ได้ หรืออาจจะโดนโจมตีเรื่องอาหารติดกระทะหนักมาก ทำให้รบกวนการทาน

อีกหนึ่งเรื่องที่อาจเป็นปัญหา โดยเฉพาะกับร้านที่เป็นไลน์บุฟเฟต์คือ อาหารขาดตอน ไม่เติมบ้าง เติมช้าบ้าง คนที่มาตอนวัตถุดิบนั้นหมดพอดีก็จะรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า ทางที่ดีควรให้โอกาสลูกค้าทุกคนในการเข้าถึงวัตถุดิบที่ต้องการได้เท่ากันและตลอดเวลา

หากต้องการเปิดร้านปิ้งย่างชาบู นอกจากความพยายามในการทำให้ร้านมีทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญไม่น้อยกว่ากันคือ การรู้ทันว่าธุรกิจลักษณะนี้มักก่อให้เกิดความไม่พึงประสงค์ด้านใด แล้วรีบจัดการป้องกันไม่ให้เกิดกับลูกค้า ถ้ารู้ว่าพื้นที่ร้านเล็ก ระบบระบายอากาศไม่ดี ต้องทำให้เตาปิ้ง-ย่าง ดูดควันได้ ถ้ารู้ว่าอาจเกิดปัญหาวัตถุดิบขาดตอน ก็ต้องลงแรงกับเรื่องแผนการจัดการ สแตนบายเรื่องการเตรียมวัตถุดิบ และระบบการเติมของนั่นเอง